น้ำหอม ของแท้ ใช้ยังไง ที่มาของน้ำหอมเป็นยังไง ความรู้เกี่ยวกับน้ำหอม การเลือกซื้อน้ำหอม แหล่งซื้อน้ำหอม ทุกๆเรื่องของน้ำหอม คุณสามารถหาได้จากที่นี่ http://น้ำหอม-น้ำหอม.Blogspot.com

สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกๆท่าน




พอดีปอนด์นั่งอ่านบทความใน Pantip ไปเจอบทความน้ำหอมอยู่บทความหนึ่ง เขียนไว้โดย คุณ Cloud illusions เป็นบทความน่าสนใจมาก เลยอยากจะเอามาแชร์ให้ผู้ชายที่กำลังเลือกน้ำหอม อ่านไว้เป็นแนวทางในการเลือก น้ำหอมผู้ชาย


หมายเหตุ******** การเลือกน้ำหอมควรตัดสินใจจากดมและทดสอบกลิ่นด้วยตนเอง
ความรู้สึกของแต่ล่ะคนที่มีต่อน้ำหอมอาจไม่เหมือนกัน บทความที่ผมนำมานี้เป็นแค่คำแนะนำ และ แนวทาง เพื่อช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆในการเลือกน้ำหอมผู้ชายนะครับ




เป็นที่รู้ๆกันในหมู่เพื่อนๆว่าผมเป็นคนบ้าน้ำหอมครับ เพราะฉะนั้นนอกจากผมจะซื้อเองแล้ว เวลาใครไปไหนมาไหน หรือ ใครอยากให้ของขวัญ ก็มักจะเป็นน้ำหอม เลยมีน้ำหอมหลายขวด ใช้ก็ไม่ค่อยหมดสักที ที่เห็นในรูปนี่คือหลังจากโละให้เพื่อนๆน้องๆไปหลายขวดละนะครับ


จริงๆก็ไม่ค่อยอยากให้หรอก เพราะผมชอบน้ำหอม แต่ก็ต้องตัดใจเพราะเก็บไว้กับตัวเองก็ไม่ได้ใช้ เสียป่าวๆ เลยต้องตัดใจโละให้คนที่เขาเอาไปใช้ประโยชน์ได้ไป


มาดูกันนะครับว่าผมมีอะไรมั่ง เผื่อคุณจะสนใจหามาใช้มั่งจะได้หอมๆเหมือนๆกัน อิอิ




มาดูกันที่ set แรกครับ set นี้ของ CK ล้วน
ต้องขอบอกหน่อยว่า CK เป็นยี่ห้อที่ทำน้ำหอมออกมาแล้วไม่ค่อยผิดหวัง ผมมีมาแล้วเกือบทุกตัว แต่ใช้หมดไปแล้ว หรือ ไม่ก็ยกให้คนอื่นไปแล้ว เช่น contradiction, escape, truth, CK be, CK one original, etc


1. CK one summer
อันนี้ไม่แน่ใจว่า summer ของปีไหน น่าจะ 2007 นะครับ กลิ่นหอมมาก ทันสมัย เทรนดี้นิดๆ กลิ่นนี้ฉีกออกจาก CK one ธรรมดาออกไปเลย เหมาะกับฉีดไปปาร์ตี้นะผมว่า ไม่ต้องฉีดเยอะก็ติดทนดี จำได้ว่าแม่ซื้อมาให้ จริงๆฝากแม่ซื้ออ่ะ แต่ทำเบลอ ลืม ป่านนี้ยังไม่ให้เงินแม่เลย อิอิ ไม่ต้องเอาละกันนะแม่ เดี่ยวพาไปกินข้าว รักแม่ครับ จุ๊บๆ กลิ่นนี้ถูกใจมากให้เต็มสิบคะแนน


2. CK one electric
อันนี้ผมว่ากลิ่นอ่อนๆ เย็นๆ ใกล้กับ CK one ธรรมดา มากกว่า อันแรกหน่อย ผมว่าเหมาะกับฉีดในวันสบายๆ ไปทะเล เดินเล่น ซอปปิ้ง อันนี้ให้เก้าเต็มสิบ จำได้ว่าเพื่อนซื้อมาให้จากฮ่องกง ยังงัยก็ขอบคุณเพื่อนสุดสวยคนนั้นมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับบบ (ขอให้ได้ internship สมใจนะจ๊ะ)


3. CK Man
อันนี้น้องซื้อมาแล้วไม่ชอบบอกฉีดกับตัวเองแล้วไม่หอมเลยยกให้ แต่ผมกลับชอบนะ ฉีดกับตัวเองก็โอเค ชอบฉีดไปทำงาน เพื่อนๆที่ทำงานบอกว่าหอมแบบดูผู้ชายเนี๊ยบๆ ผมก็เห็นด้วยนะ อันนี้ก็ติดทนดี ให้เก้าเต็มสิบ


4. CK Eternity summer
อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่า summer ปีไร น่าจะเป็น 2007 กลิ่นนี้หอมอ่อนๆ ฉีดแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ชายสำอางๆ สุขภาพดี หอมอ่อนๆ กลิ่นอาจจะไม่ถึงขนาดเดินผ่านใครแล้วใครหันมามอง แต่ว่าถ้าใครมาใกล้ๆแล้วจะได้กลิ่นแล้วส่วนใหญ่จะบอกว่าหอมดี น่ากอด อันนี้ให้เก้าเต็มสิบเหมือนกัน


5. CK Eternity
น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมกลิ่นที่สองในชีวิตที่มีไว้ในครอบครอง (กลิ่นแรกคือ Drakkar Noir ของ Guy La Roche งัยครับกลิ่นนี้ บ่งบอกอายุผมเลยป่ะ อิอิ)จำได้ว่าได้มาขวดแรกได้มาตอนอยู่ ม 1 ฉีดไป รร ทุกวัน จนเพื่อนๆแซวว่า กลิ่นมาก่อนตัว ตอนนั้นชอบกลิ่นนี้มากและก็ยังชอบมากมาจนถึงปัจจุบัน กลิ่นอมตะสมชื่อมาก ผมใช้มาไม่รู้กี่ขวดแล้ว หมดเมื่อไหร่ก็ยังจะคงซื้อต่อไป เพราะชอบมาก กลิ่น unique และ ติดทนมาก เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ผมว่าติดทนที่สุดที่ผมเคยมีมาเลย ให้เต็มสิบคะแนนเลยครับ


6. Euphoria
อันนี้เพื่อนรักให้วันเกิด จะบอกว่าไม่ชอบเลย กลิ่นดูแก่ๆยังงัยไม่รู้ เหมือน Drakkar น้ำหอมขวดแรกที่ผมมี ดมแล้วฟิลประมาณพวกป๋าฉีดไปจีบเด็กยังงัยไม่รู้ อารมณ์ประมาณ Polo เขียวอ่ะ สรุปไม่ใช่แนวผม แต่ขวดสวยดีนะผมชอบ design เอาค่าขวดเดิ้นไป ห้าเต็มสิบ



set ที่ 2 คือ set ของ Bvlgari
เป็นอีกยี่ห้อที่ผมชอบมาก เรียกว่ามีทุกกลิ่นของผู้ชายที่ออกมา ปัจจุบัน เหลืออยู่เท่าที่เห็นอ่ะครับ


1. BLV Notte Pour Homme
อันนี้มันมีรุ่นธรรมดาด้วยนะครับ แต่อันนี้เป็นกลิ่นที่ออกแบบมาให้ฉีดตอนกลางคืน ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ มันดูหรูๆดี กลิ่นออกแป้งๆหน่อย ผมว่าฉีดบนเนื้อเราหอมกว่าฉีดใส่เสื้อนะ จริงๆน้ำหอมทุกตัวก็ควรฉีดบนเนื้อนะครับ จะได้เสื้อผ้าไม่เหลือง กลิ่นออกจะ over the top หน่อย ไม่ค่อยเป็นตัวผมเท่าไหร่ แต่เวลาอยากจะรู้สึกหรูๆหน่อยถึงฉีด อันนี้ให้ เจ็ดเต็มสิบ อย่าฉีดเยอะนะครับ มันค่อนข้างฉุน


2. BVLGARI Eau Parfumee au the vert
อันนี้ไม่ได้ซื้อครับ ได้มาฟรีๆจากเพื่อนที่เป็น air ของสายการบินหนึ่ง มันบอกว่า เขาแจกให้ผู้โดยสาร business class กลิ่นก็หอมเย็นๆนะครับ อ่อนมากๆๆๆ แทบจะไม่ค่อยได้กลิ่นไรเลยอาจจะเพราะนี่มันน้ำหอมผู้หญิงด้วยมั้งครับ อันนี้ให้ หกเต็มสิบ


3. BVLGARI Pour Homme Extreme
อันนี้เป็นน้ำหอมอันดับหนึ่งในใจผม ใช้มาตั้งแต่อายุ 16 ตอนที่มันยังเป็น original อยู่เลย มีอยู่ปีนึงตอน 17-18 ฉีดแต่กลิ่นนี้ไม่ฉีดกลิ่นอื่นเลยจนใครๆก็ติดกลายเป็นว่ากลิ่นนี้คือกลิ่นประจำตัวผมไปแล้ว แฟนเก่าผมคนนึงที่เลิกไปแล้วบอกว่า กลิ่นนี้หลอนมาก ได้กลิ่นทีไรคิดถึงผมทุกที อิอิ กลิ่นนี้เป้นกลิ่นที่พัฒนามาจากรุ่น original ให้กลิ่นติดทนมากขึ้น ใครที่ชอบน้ำหอมที่หอมเย็นๆ เรื่อยๆ สะอาดๆ ดูเรียบๆ แต่หรูๆ ลองอันนี้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน หอมดูดีมีรสนิยมแบบนี้ให้ไปเลยเต็มสิบ


4. BVLGARI Pour Homme Soir
กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่พัฒนามาจาก extreme อีกที แต่ออกห่างกันหลายปีพอสมควร อันนี้ผมว่ากลิ่นมันผู้ใหญ่ขึ้นนะครับ ดูมีมาด เท่ๆดี เหมาะกับฉีดไปทำงาน ฉีดไปงานแต่งงาน หรืองานอะไรที่เราต้องสร้างความภูมิฐาน สร้างอิมเมจให้ตัวเอง ดูมีรสนิยมดีครับ แต่กลิ่นมันไม่ค่อยติดเท่า extreme อันนี้พ่อซื้อมาฝากจากเมืองยอก ซึ่งผมอึ้งมาก เพราะปกติพ่อไม่ค่อยซื้อไรมาฝาก อันนี้ให้เก้าคะแนนครับ


5. BVLGARI Aqva Pour Homme Marine
อันนี้เป็นรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่น original ออกห่างกันสามสี่ปีถ้าผมจำไม่ผิดนะ อันนี้ซื้อให้ตัวเอง แล้วโละรุ่น original ให้น้องไป ผมชอบกลิ่นนี้มากกว่ากลิ่น original นะ มันดู soft ขี้น และ เด็กขึ้น เหมาะสำหรับฉีดไปไหนก็ได้ ดุมันส์ๆสนุกๆ แต่ผมว่า original กลิ่นติดทนกว่านะไม่รู้คิดไปเองป่าว original ดูเป็นทางการกว่าด้วย รุ่น Marine นี้ผมให้แปดเต็มสิบ

set ที่ 3 Jo Malone
น้ำหอมราคามหาโหดที่มีลูกเล่นโดยการสามารถผสมกลิ่นได้ด้วยตัวเอง คนที่เป็นแฟน Jo Malone ตัวจริง เขามีวิธีผสมกลิ่นหลายวิธีนะครับ บางคนก็ใช้ครีมอาบน้ำกลิ่นนึง ทาโลชั่นอีกกลิ่นนึง แล้วฉีดน้ำหอมอีกกลิ่น ก็จะได้กลิ่นเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร สำหรับผมใช้แต่น้ำหอมครับ วิธีฉีดส่วนตัวของผมมีสองวิธี วิธีแรกคือฉีดกลิ่นนึงไว้ด้านหน้า อีกกลิ่นไว้ด้านหลัง เวลาเราเดินเข้าไปหาใครคนที่เราคุยด้วยก็จะได้กลิ่นแรก พอเราเดินจากมาก็จะได้กลิ่นที่สอง อีกวิธีก็คือฉีดบริเวณใกล้ๆกัน แต่กระจายให้มันทั่วๆตัว อันนี้ผมว่าได้ผลดีกว่าวิธีแรกนะ เพราะกลิ่นมันจะผสมกันได้อย่างลงตัว อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมในการเลือกด้วยนะ ถ้าผสมมั่วก็แย่เหมือนกัน ผมเคยโดนมาแล้ว ได้มาใหม่ๆลองมั่วๆ ผลคือ ไปอาบน้ำใหม่เลยครับ อิอิ เวลาฉีดผมจะไม่ฉีดกลิ่นคนละกลิ่นบนจุดเดียวกันนะครับ ผมว่ามันไม่หอม สู้ฉีดใกล้ๆกันแล้วปล่อยให้มันคลุ้งขึ้นมาผสมกันไม่ได้ แบบนี้ผมว่าหอมกว่า เช่น ผมฉีดซอกคอข้างซ้ายขวา กลิ่นนึง แล้วผมก็ฉีดอีกกลิ่นที่ตรงคอบริเวณลูกกระเดือกอ่ะ กับ ตรงหลังคอ กลิ่นมันก็จะลอยขึ้นมาปนกันพอดี อีกอย่างที่จะบอกคือ


การฉีดกลิ่นใดก่อนหลังก็มีผลต่อกลิ่นที่ผสมแล้วด้วยนะครับ เราต้องเลือกว่าอยากได้กลิ่นไหนเป็น base กลิ่นไหนเป็น top note อะไรแบบนี้อ่ะครับ น้ำหอม Jo Malone หลายกลิ่นไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ ฉีดไปสักสามสี่ชั่วโมงจะไม่ค่อยได้กลิ่นแล้ว ต้องมาใกล้กันแนบชิดในระยะเผาขนถึงจะได้กลิ่น แต่ก็เป็นกลิ่นอ่อนๆ ที่ดูสะอาด และถ้าคุณผสมกลิ่นเป็น จะเป็นกลิ่นที่ทำให้คุณมีเสน่ห์มากๆครับ ผมรับรอง ใช้ได้ผลมาหลายงานละ อิอิ


1. Nutmeg & Ginger
กลิ่นนี้เป็นกลิ่นแรกที่มีของ Jo Malone ที่รักเก่าซื้อให้วันปีใหม่ กลิ่นนี้ตอนแรกดมผมเฉยๆ แต่พอฉีดกับตัวแล้วชอบมากขึ้นเยอะ จริงๆผมว่าน้ำหอม Jo Malone หลายๆกลิ่นเป็นแบบนี้นะ ต้องลองฉีดกับตัวแล้วถึงจะตัดสินใจได้ บางกลิ่นฉีดโดดๆแล้วเฉยๆ แต่พอเอาไปผสมกับกลิ่นอื่นแล้วหอมมาก อันนี้ถ้าฉีดโดดๆจะดูแก่ แต่ถ้าผสมกับกลิ่นอื่นจะทำให้ดูอ่อนลง ยิ่งถ้าเป็นกลิ่นแนว floral จะยิ่งดูเด็กลง โดยส่วนตัวนะผมชอบผสมกับ Vetyver ที่สุดจะได้กลิ่นของคุณชายสะอาด มีรสนิยม ดูรวยดีอ่ะครับ ฮ่าๆๆๆ เพราะ Vetyver ก็ดูหรูๆ เท่ๆ ถ้าผสมกับ Nectarine Blossom & Honey ก็หอมๆ ดูสะอาดๆ คุณชายๆเหมือนกัน แต่เป็นคุณชายเด็กๆลงมาหน่อย ถ้าผสมกับ Orange Blossom ก็ดูหวานขึ้นหน่อย อันนี้ผมให้แปดเต็มสิบ


2. Nectraine Blossom & Honey
อันนี้เป็นกลิ่น floral ที่หอมมาก มัน unisex นะผมว่า แต่กึ่งไปทางผู้หญิงหน่อยๆ ดูหวานๆหอมๆสะอาดๆ ฉีดโดดๆก็หอมแล้ว เพื่อนผู้หญิงผมคนนึงเอากลิ่นนี้ผสมกับ Orange Blossom แล้วหอมมากกกก น่าวิ่งเข้าไปกอด เคยอ่านในmagazine ทาง Jo Malone เขาบอกว่า ผสมสองกลิ่นนี้เหมาะกับผู้หญิงที่อยากได้ฟีลประมาณ princess หรือไม่ก็เหมาะกะเจ้าสาวในวันแต่งงาน ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ แต่ถ้าผู้ชายอยากให้ดูแมนหน่อย ก็ผสมกับ Vetyver ก็ดูเย็นๆดีครับ เหมาะกับวันสบายๆ หรือถ้าผสมกับ Nutmeg & Ginger ก็ดูหรูขึ้น เหมาะไปงานกลางคืนได้เลยครับ อันนี้ผมให้เก้าเต็มสิบ


3. Lime Basil & Mandarin
อันนี้บอกตรงๆว่าตอนไปยืนๆดมๆที่ counter ไม่ชอบเลย กลิ่นบ้าไรไม่รู้ยังกะยากันยุง แต่พอดีเพื่อนซื้อให้วันเกิดเมื่อต้นเดือนก็เลยลองเอามาผสมกับกลิ่นที่เรามีอยู่แล้ว ปรากฏว่า หอมแฮะ ผมชอบผสมกับ vetyver อ่ะครับดูคุณชายดี อันอื่นผมว่าไม่ work อันนี้ให้เจ็ดพอ เพราะฉีดโดดๆแล้วไม่ค่อยหอม


4. Orange Blossom
อันนี้ตอนไปดมแล้วมันหอมดี บวกกับ BA โฆษณาว่าเป็นกลิ่นยอดนิยมผสมได้กับแทบทุกกลิ่นก็เลยซื้อ (แต่ไม่ได้ซื้อกับเขานะ ฝากแม่ซื้อที่ Heathrow ถูกกว่ากันเกือบเท่าตัว อิอิ) พอได้มาแล้วผมว่ากลิ่นนี้หญิงไปสำหรับผู้ชาย ผสมกับกลิ่นอื่นที่เป็น spice ก็ดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่โดนเท่าไหร่ ดีสุดก็ผสมกับ Nutmeg & Ginger แต่มาคิดอีกทีเป็นเพราะผมไม่ได้มีกลิ่นหลายๆกลิ่นหรือเปล่าก็ไม่รู้เลยผสมได้ไม่เยอะ บางคนที่เขามีเยอะกว่าผมอาจจะมีวิธีผสมให้โดนๆ กลิ่นนี้ผมให้ หกคะแนน


5. Vetyver
ผมชอบกลิ่นนี้ของ Jo Malone ที่สุด ฉีดโดดๆมันก็ดูสะอาด เรียบ ง่าย เท่ และก็หรูดี ฉีดกับกลิ่นอื่นก็เข้าและเพิ่มความแปลกใหม่ดีด้วย ตามความคิดผมนะครับ Vetyver เหมาะที่จะผสมกับ Nutmeg & Ginger ที่สุด ผสมสองกลิ่นนี้ทีไร คนถามทุกทีว่าฉีดน้ำหอมอะไร อันนี้ถ้าเราอยากได้กลิ่นไiนำกลิ่นไร เราก็เลือกได้ว่าจะฉีดไรมากฉีดไรน้อย ฉีดไรก่อนฉีดไรหลัง อีกฟิลนึงก็ผสมกับ Nectarine Blossom & Honey ก็ดูเด็กขึ้นมาหน่อยครับ สะอาดๆ เป็นคุณชายน้อยๆ (ไม่ใช่ชายน้อยปากเบี้ยวนะ) กลิ่น vetyver นี้ดีครับรับรอง ผสมกับได้หลายกลิ่น ให้ไปเลยเต็มสิบ



set ที่ 4 น้ำหอมฉีดบ่อยครับ


1.Clinique Happy for Men
กลิ่นนี้ตอนออกมาใหม่เคยชอบมากขนาดฉีดทุกวันอยู่หลายเดือนเหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นไปเที่ยว ตปท กับ แฟนเก่า ฉีดแต่กลิ่นนี้อ่ะครับ กลิ่นจะออกใสๆ เด็กๆ วัยรุ่นๆหน่อย ผมว่าผู้หญิงก็ฉีดได้นะ ฉีดไปทะเลก็เข้านะครับ แบบไป road trip กับเพื่อนๆ หรือ คนรัก แต่ตินิดนึวกลิ่นนี้ฉีดแล้วไม่เหมาะกับไปที่ที่ร้อนมากๆเหงื่อเยอะๆนะ ไม่รู้เป็นกับผมคนเดียวป่าว แต่พอเหงื่ออกเยอะๆแล้วกลิ่นมันเปลี่ยนๆ แล้วก็จางเร็วมาก กลิ่นนี้ผมให้แปดคะแนนละกัน


2.Giorgio Armani Aqua Di Gio
กลิ่นนี้เป็นอีกกลิ่นที่ผมว่า ฉีดได้ทุกวัน และ ทุกวัย อายุมากหน่อยฉีดแล้วก็เท่ดี วัยรุ่นก็ฉีดแล้วดู trendy ขนาดออกมานานแล้วก็ยัง trendy อยู่ ที่สำคัญกลิ่นติดดีมาก ฉีดตอนเช้า ผ่านมาตอนเย็นก็ยังได้กลิ่นอ่อนๆอยู่ ผสมกับเหงื่อก็กลิ่นไม่เน่า ผมเคยฉีดแล้วไปเล่นฟิตเนส คนข้างๆมาถามเลยว่า ใช้น้ำหอมอะไร อันนี้ให้สิบคะแนนเหมือนกัน


3.Versace Man Eau Fraiche
กลิ่นนี้อันที่เป็น original ผมไม่ชอบเลย ดูเหมือนขนมหวานถูกๆยังงัยไม่รู้ แต่พออกรุ่นนี้มา เขาทำให้ดู fresh ขึ้นแล้วผมชอบเลย กลิ่นอาจจะไม่โดดเด่น ฟุ้งกระจาย แต่ผมว่ามันหอมอ่อนๆ จางๆ แต่แมนๆ แมนสมชื่อเลยอ่ะครับ เหมาะกับไปเดินเล่น น้ำตก ทุ่งหญ้า หรือไปกินข้าวกับแฟนสองคน ให้แปดคะแนน


4.Vera Wang for Men
น้ำหอมกลิ่นนี้ผมค่อนข้างโชคดีที่ได้มาตอนที่ยังไม่มีใครรู้จักในไทยเท่าไหร่ ฉีดไปไหนก็มีแต่คนถามว่าใช้น้ำหอมอะไร แต่ถึงมีตอนนี้ที่มีคนรู้จักบ้างแล้ว ก็ยังมีคนถามถึงและชมอยู่ดี กลิ่นนี้ดูหรู เท่ เนี๊ยบ แต่ไม่แก่ เหมาะกับไปงานปาร์ตี้ หรือ คนที่ต้องการสร้างอิมเมจ party boy ที่มีความ trendy อยู่อ่ะคับ แต่กลิ่นนี้ผมว่าในไทยคนไม่ค่อยฮิตทั้งๆที่มันหอมนะ อาจจะ พราะมันเป็นน้ำหอมที่ฉีดยากพอสมควร หมายถึงว่าไม่ใช่ทุกคนจะฉีดแล้วเข้า คนใช้ต้องมี character นิดนึง แต่งตัวๆหน่อยด้วย จะเหมาะมาก แต่บางโอกาสฉีดกับชุดสูทไปออกงานกลางคืนก็เข้านะ เออ! กลิ่นนี้แปลกอย่างนะครับ หลายๆคนที่ผมรู้จัก ฉีดออกมาแล้วกลิ่นไม่เหมือนกันสักคน สงสัยมันจะผสมกับกลิ่นส่วนตัวของแต่ละคนด้วย แต่สำหรับตัวผม work มาก ชอบสุดๆ เอาไปเลย สิบคะแนน


5.Diesel Fuel for Life for Men
น้ำหอมกลิ่นนี้ผมว่าเหมาะกับการใส่เสื้อยืด กางเกงยีนที่สุด แบบสบายๆ ไปตลาด ไปชอปปิ้ง ไปเดินเล่น relax อะไรประมาณนั้นอ่ะครับ ฉีดแล้วดูไม่จริงจัง สบายๆ สะอาดๆ กลิ่นก็ติดทนดีนะ ให้ แปดคะแนน





Set ที่ 5 น้ำหอม นานๆฉีดที


1. Chanel Allure Homme Sport
กลิ่นนี้ตอนออกมาใหม่ผมชอบมาก มันพัฒนามาจากรุ่น original ขึ้นเยอะ ดู sporty สนุกๆ กลิ่นกระจายดี ฉีดไปไหนใครก็ได้กลิ่น ดูเป็นคนสนุกๆ ขี้เล่นๆ แต่ก็แต่งตัวๆหน่อย ฉีดแล้วติดทนใช้ได้ ให้แปดคะแนน อ้อ! แต่ตอนนี้ผมกำลังเห่อรุ่นใหม่อยู่ครับ Allure Homme Edition Blanche หอมมากกกกกกก ยังไม่ได้ซื้อนะครับ เพราะที่มีอยู่ก็ฉีดไม่ไหวแล้ว รอเพื่อนซื้อมาให้ดีกว่า ประหยัด และ ไม่รู้สึกว่าเราฟุ่มเฟือยดี อิอิ


2. Aigner Blue Emotion
กลิ่นนี้ตอนแรกไม่รู้จักเลยครับ แต่พอดีตอนนั้นเปลี่ยนสายงานแล้วอยากแบบดูลุคเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เลยมีรุ่นน้องคนนึงแนะนำว่ากลิ่นนี้ฉีดแล้วดูผู้ใหญ่ดี แต่ไม่แก่ ไปลองดมๆดู ก็แก่เหมือนกันนี่กว่า แต่แก่สะอาดๆดี ก็เลยซื้อมา ก็หอมดีครับ ติดทนพอใช้แต่ไม่มาก ให้เจ็ดคะแนน


3. Tommy Hilfiger Hilfiger EST 1985
กลิ่นนี้ฉุนเหมือนกันนะ ตอนแรกฉีดกับกระดาษทดลองก็หอมดี พอมาฉีดตัวแล้วไม่ค่อยชอบ แต่ซื้อมาแล้วทำไรไม่ได้ คงยกให้คนอื่นเร็วๆนี้ แต่มันก็มีข้อดีนะครับ คือ ติดทนดี แล้วก็ดู sporty เหมือนน้ำหอมส่วนใหญ่ของยี่ห้อนี้ อันนี้ไม่ชอบเท่าไหร่ให้ ห้าคะแนน


4. Jil Sander Sun Men
กลิ่นนี้ได้มาแบบทรหดมาก คือตอนนั้นไปสเปนเดินๆอยู่กลางถนนแล้วมีคนนึงฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ ผมก็พยายามดมว่ามันมาจากตรงไหน เหมือนหมาเลยครับ ที่สุดก็หาไม่เจอ พอเข้า duty free ผมก็ดม:-)ทุกขวดเลยครับ ดมจนจมูกจะหลุด จนในที่สุดก็เจอ กลิ่นนี้ติดทนดีนะครับ กลิ่นออกแป้งๆหน่อย ฉีดในอากาศหนาวๆจะเหมาะมาก ผมเอาไว้ฉีดตอนไปเมืองนอก ที่สำคัญผมยังไม่เคยเห็นใครในเมืองไทยฉีดเลยครับ กลิ่นนี้ให้ แปด



Set สุดท้าย น้ำหอมใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืน


1.Liz Claiborne Curve
กลิ่นนี้ออกมานานมากๆแล้วครับ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ผมมารู้จักเพราะแฟนเก่าเชอบฉีด ตอนได้กลิ่นใหม่ๆชอบมากขอเขาฉีดทุกวันเลยครับ มันหอมแบบ สะอาดๆ อ่อนๆ และก็มีเสน่ห์ดีครับ ฉีดตอนกลางวันก็ดูสบายๆดี ฉีดตอนกลางคืนก็ดูสะอาดๆ ผมตินิดนึงคือมัน ไม่ค่อยติดทน เท่าไหร่ อันนี้ให้ แปดคะแนน


2.Ralph Lauren Black
กลิ่นนี้เป็นอีกกลิ่นที่ผมชอบมากกกกกกก ฉีดบ่อยมากเหมือนกัน ผมว่ากลิ่นมันดูมีรสนิยมดี เหมือนคนเนี๊ยบๆ ที่รู้จักเลือกใช้ของดีมีราคา กลิ่นก็ติดทนดี เห็นมีคนบอกว่า รุ่นที่ออกมาใหม่ Double Black จะติดขึ้นกว่าเดิม อันนี้ผมไม่รู้ เคยไปดมแต่ไม่เคยฉีดกับตัวสักที กลิ่นนี้ให้สิบคะแนนเต็ม


3.Ralph Lauren Blue
กลิ่นนี้ซื้อมาตอนมันออกใหม่ๆเลยครับ ไปเกาหลีแล้วรอขึ้นเครื่องนาน เดินไปเดินมาเลยได้ไอ้นี่กลับมา กลิ่นหอมแบบ นักธุรกิจเด็กๆอ่ะผมว่า เหมือนคนที่ทำงานแล้วแต่ยังวัยไม่มาก ตอนออกมาใหม่ฉีดบ่อยมาก ตอนนี้ไม่ค่อยได้ฉีดเท่าไหร่ กลิ่นติดทนดีนะครับ กลิ่นนี้ให้ แปดครับ


4.Sean John Unforgivable
กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ฉุนมากพอสมควร ซึ่งปกติผมจะไม่ชอบน้ำหอมแนวนี้ แต่กลิ่นนี้ฉีดน้อยๆกับตัวแล้วหอมนะครับ เหมาะกับงานปาร์ตี้ ดู playboy หน่อยๆ จะฉีดไปงานกลางคืนก็โอเคนะครับ อันนี้ให้เจ็ดคะแนน





บทความโดย คุณ Cloud illusions

ที่มา http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2009/03/Q7684226/Q7684226.html

0 ความคิดเห็น:

น้ำหอม

ร้าน น้ำหอม น้ำหอมแท้ น้ำหอมถูก

น้ำหอมแท้